จำนวนพายุหมุนเขตร้อนในโซนมหาสมุทรแอตแลนติกปีนี้เกิดมากกว่า 21 ลูก จนต้องใช้ชื่อสำรอง
แอ่งกำเนิดพายุหมุนเขตร้อนในโซนมหาสมุทรแอตแลนติกนั้นแตกต่างจากแอ่งกำเนิดพายุหมุนเขตร้อนใน โซนตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกที่จะมีพายุเกิดขึ้นมากกว่า 27 ลูกต่อปี จึงใช้ระบบการตั้งชื่อโดยประเทศรอบๆพื้นที่จำนวน 14 ประเทศส่งชื่อที่เป็นคำต่างๆในภาษาท้องถิ่นของตัวเองมาประเทศละ 10 ชื่อรวม 140 ชื่อนำไปเข้าตารางแล้วใช้หมุนวนไปเรื่อยๆไม่มีวันหมด
แต่ในโซนมหาสมุทรแอตแลนติกที่เป็นแหล่งกำเนิดพายุเฮอริเคนนั้น โดยปกติแล้วจะมีจํานวนพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นน้อยกว่า การตั้งชื่อจึงใช้ระบบ ตั้งชื่อเป็นชื่อมนุษย์ เรียงตามอักษรภาษาอังกฤษ จาก A ถึง W แยกไว้เป็นปีไม่ปนกัน (ตามธรรมเนียมจะไม่ใช้ชื่อที่นำหน้าด้วยอักษร Q U V X Y Z)
สำหรับปีพายุ 2020 นี้ ชื่อที่ตั้งไว้ได้แก่
Arthur Bertha Cristobal Dolly Edouard Fay Gonzalo Hanna Isaias Josephine Kyle Laura Marco Nana Omar Paulette Rene Sally Teddy Vicky Wilfred
ในเวลาที่กำลังเขียนบทความนี้ คือ 19 กันยายน ชื่อพายุหมุนเขตร้อนที่ตั้งไว้ล่วงหน้าก็ได้หมดลง นั่นคือหลังการก่อตัวของพายุดีเปรสชัน 20L (ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นพายุเฮอร์ริเคนและได้ใช้ชื่อ Teddy) ก็มีการก่อตัวของดีเปรสชันอีก 4 ลูกตามมาอย่างรวดเร็ว ได้แก่พายุดีเปรสชัน 21L 22L 23L และ 24L โดยพายุดีเปรสชัน 23L ทวีกำลังขึ้นก่อน จึงได้ใช้ชื่อสุดท้ายของตารางรายชื่อ นั่นคือ Wilfred ไป (พายุดีเปรสชัน 21L สลายตัวก่อนใช้ชื่อ)
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1953 เมื่อพายุดีเปรสชัน 24 L ที่ก่อตัวริมชายฝั่งประเทศโปรตุเกสปีนี้ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อนและจำเป็นต้องใช้ชื่อเรียก จึงต้องใช้ชื่อสำรองนั่นคือตัวแรกของอักษรกรีกอันได้แก่ Alpha ตามมาด้วยพายุดีเปรสชัน 22L ในอ่าวเม็กซิโกที่ได้ใช้ชื่อที่สองในรายชื่อสำรองนั่นคือ Beta
ก่อนสิ้นสุดฤดูกาลพายุเฮอริเคนปีนี้ยังมีโอกาสที่ชื่อสำรองอักษรกรีกจะถูกเรียกใช้ต่อไปเรื่อยๆ ทั้งนี้จำนวนพายุที่เกิดในรอบฤดูกาลที่มีลักษณะการเพิ่มจำนวนขึ้น ไม่ได้เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกแต่อย่างใด การศึกษาในระยะหลังพบว่าสภาวะโลกร้อนนั้นไปเพิ่มความรุนแรงในการทำลายล้างของพายุหมุนเขตร้อนมากกว่า
เรียบเรียงโดย @MrVop