ทีมนักวิทยาศาสตร์อเมริกันศาสตราจารย์แมทธิว เบนเน็ตต์ และทีมงานจากมหาวิทยาลัยบอร์นมัธ พบหลักฐานยืนยันอายุของ ‘รอยเท้ามนุษย์โบราณ’ ที่พบในรัฐนิวเม็กซิโก ว่าเก่าแก่ย้อนหลังไปจาก 21,000 ถึง 23,000 ปีก่อน บ่งชี้ว่ามนุษย์อาจเดินทางมาถึงทวีปอเมริกายนานกว่าที่เคยคาดไว้
รอยเท้ามนุษย์โบราณชุดนี้ค้นพบโดยเดวิด บุสโตส (David Bustos) ผู้จัดการทรัพยากรของอุทยานแห่งชาติ White Sands มาตั้วแต่ปี 2552 แต่ในช่วงแรกยังไม่มีหนทางในการแยกแยะอายุของรอยเท้าลงไปให้ชัดเจน จนล่าสุดทีมงานของศาสตราจารย์แมทธิวได้อาศัยวิธีการวิเคราะห์เรดิโอคาร์บอนของเมล็ดพืชที่ติดอยู่ในรอยเท้าโบราณดังกล่าวจนสามารถยืนยันอายุที่ค่อนข้างแน่นอนของรอยเท้าชุดนี้ลงไปได้ว่าน่าจะมีอายุอยู่ในช่วง 22,800 ปี ถึง 21,130 ปีก่อน

ทีมงานยังพบว่ารอยเท้ามมนุษย์โบราณที่พบนี้เป็นรอยเท้าของกลุ่มคนที่มีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในยุคน้ำแข็งตอนปลายในช่วงเวลาที่เรียกว่า Last Glacial Maximum เจ้าของรอยเท้าน่าจะเดินอยู่บนหาดทรายขาวที่อ่อนนุ่ม อาจกำลังพากันเฝ้ามองฝูงแมมมอธและสล็อธยักษ์ที่กำลังหากินอยู่ห่างออกไป แสดงให้เห็นถึงปฎิสัมพันธ์ทางสังคมและสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเผ่าพันธุ์ในช่วงเวลานั้น
“เรามองเห็นการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และสัตว์ในยุคน้ำแข็งตอนปลาย การระบุอายุรอยเท้าเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำ ทำให้เราสามารถสร้างภาพภูมิทัศน์ที่ใหญ่ขึ้น” ดร.แซลลี เรย์โนลด์ส นักบรรพชีวินวิทยาโฮมินินแห่งมหาวิทยาลัยบอร์นมัธ กล่าว “มนุษย์ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาล่าสัตว์อย่างเดียว ในบางครั้งเราก็รวมกลุ่มเฝ้ามองฝูงสัตว์อย่างสงบ”
การค้นพบครั้งนี้ ยังช่วยไขปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์ค้างคาใจมานาน นั่นคือ มนุษย์กลุ่มแรกเดินทางมาถึงทวีปอเมริกาเมื่อไหร่กันแน่ รอยเท้าชุดนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในรอยเท้ามนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดที่พบใรแผ่นดินทวีปอเมริกาเหนือ
ทีมงานตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยครั้งนี้ในวารสาร journal Science.
เครดิตรูปภาพ: Bennett et al ., doi: 10.1126/science.abg7586